เครื่องรางญี่ปุ่น สายมูหลายท่านนิยมที่จะบูชาเครื่องรางญี่ปุ่นมาพกติดตัว แต่เชื่อหรือไม่ว่าเครื่องรางนี้มีวันหมดอายุ จะต้องทำอย่างไรเมื่อเครื่องรางหมดอายุ
ณ ปัจจุบันนี้ถ้าจะกล่าวถึงเครื่องราง ของขลัง นอกจากบ้านเราจะมีมากมายหลากหลายแบบแล้ว ต่างประเทศอย่างเช่นญี่ปุ่นก็มีความเชื่อเรื่องเครื่องรางด้วยเช่นกัน เครื่องรางญี่ปุ่น มีมากมายหลายแบบ แต่สายมูรู้กันหรือเปล่าเครื่องของญี่ปุ่นนี้มีวันหมดอายุด้วยนะ หลายท่านอาจจะไม่รู้ถ้าเครื่องรางหมดอายุต้องทำอย่างไร ตรวจหวย มีคำตอบมาให้กับทุกท่านแล้ว
เครื่องรางญี่ปุ่น ยอดนิยม
ก่อนที่จะไปดูวิธีแก้ไขว่าต้องทำอย่างไรเมื่อเครื่องรางหมดอายุ เรามาทำความรู้จักกับเครื่องรางที่เป็นที่นิยมของทั้งชาวแดนอาทิตย์อุทัย และสายมูสยามเมืองยิ้มอย่างประเทศเราซึ่งมีมากมายไม่ว่าจะเป็น ตุ๊กตานำโชคญี่ปุ่น สัตว์มงคลต่าง ๆ แต่เครื่องรางที่เมื่อไปถึงประเทศญี่ปุ่นแล้วต้องบูชาติดไม้ติดมือกลับมา จะมีอะไรบ้างมาดูกัน
เหรียญ 5 เยน เครื่องรางญี่ปุ่น
เป็นเครื่องรางที่หาได้ง่ายมากไม่จำเป็นต้องไปขอบูชาที่วัด หรือศาลเจ้าใด ๆ เลย เพียงแต่ถ้าสายมูอยากใช้เหรียญ 5 เยน เป็นเครื่องรางให้นำเหรียญนั้นไปล้างน้ำมนต์ที่วัดหรือศาลเจ้าต่าง ๆ ที่ประเทศญี่ปุ่นก่อน คงจะคล้าย ๆ กับการเบิกเนตรบ้านเรา เพื่อให้เหรียญมีความศักดิ์สิทธิ์
ทำไมเหรียญ 5 เยน ชาวเมืองญี่ปุ่นถึงนำมาเป็นเครื่องราง นั่นก็เพราะว่าเหรียญนั้นมีรูตรงกลาง เจ้ารูนี้จะทำให้เรื่องไม่ดีต่าง ๆ ความอับโชค เคราะห์ร้ายที่จะเข้ามาลอดรูตรงกลางออกไป รวมไปถึงคำว่าเหรียญ 5 เยนออกเสียงเรียกคล้ายกับคำที่แปลได้ว่าการขอพรจากเทพเจ้า ดังนั้นโดยทั้งหมดทั้งรวมเหรียญ 5 เยนจึงถือว่าเป็นเหรียญแห่งความโชคดีนั่นเอง
เครื่องรางด้านความรัก
ต้องบอกเลยว่าเครื่องรางด้านความรักถือได้ว่าเป็นที่นิยมอย่างมากของคนญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นแรร์ไอเทมอย่างมากสำหรับเครื่องรางความรักที่มาจาก วัดอาซากุสะ , ศาลเจ้า โนโนมิยะ และวัดคิโยมิซุ
หลายคนที่เคยบูชาไปแล้วนั้นบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเมื่อพกเครื่องรางนี้แล้วคนโสดก็มีคนเข้ามาจีบมาก คนที่มีคู่อยู่แล้วความรักก็จะราบรื่นไม่มีปัญหาทำให้ทะเลาะกัน นอกจากนี้ยังสามารถขอพรเรื่องการมีบุตรได้อีกด้วย
เครื่องรางด้านการเงิน
เครื่องรางชนิดนี้ใคร ๆ ก็ชอบ อยากจะมีพกติดตัวกันไว้ทุกคน ถ้าอยากได้เครื่องรางการเงินที่ชาวญี่ปุ่นบอกเลยว่าที่นี่ศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ ก็ต้องไปบูชาที่วัดอาซากุสะ ซึ่งเห็นผลมาแล้วหลายท่านกับผู้ที่บูชาไปแล้วจากการเงินที่ไม่ดี เงินติดขัด สภาพการเงินไม่คล่องตัว หรือจะรวมไปถึงธุรกิจค้าขายที่ให้ได้กำไร นิยมที่จะบูชาเรียกได้ว่าใครบูชาไปขอเงินหมื่นได้หมื่น ขอเงินล้านได้ล้านกันเลยทีเดียว
เครื่องรางโชคลาภ ดวงดี
อีกหนึ่งเครื่องที่เมื่อสายมูไปถึงแล้วต้องเสาะหาจากวัด หรือศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ ชาวญี่ปุ่นยกให้ ศาลเจ้าไคจู อินาริ ศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นชื่อมากเรื่องการเสี่ยงโชคเสี่ยงดวง หากได้พกเครื่องรางโชคลาภ ดวงดี จากที่ศาลเจ้าแห่งนี้ไม่ว่าจะไปเสี่ยงโชครูปแบบใดเป็นอันสมปรารถนาตามที่หวัง ถึงขนาดที่ชาวญี่ปุ่นพกไว้เพื่อไปกดจองบัตรคอนเสิร์ตให้ทันก็มีมาแล้ว
สำหรับท่านที่ชอบเสี่ยงดวงเมื่อได้เครื่องรางโชคลาภแล้ว จะเสี่ยงดวงทั้งทีต้องเลือกเว็บที่ปลอดภัยไว้ใจได้ จ่ายจริงจ่ายหนัก ต้องที่เว็บtode และเว็บ Ruay เท่านั้น มาดูกันว่าเครื่องรางจะช่วยทำกำไรให้สายมูอย่างเราได้มากเท่าไหร่
เครื่องรางด้านสุขภาพ
เครื่องรางด้านสุขภาพที่มีชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องของสุขภาพมากที่สุดคือเครื่องรางที่มาจากศาลเจ้านามิโนะอุเอะ ว่ากันว่าใครที่ป่วยไม่หายเป็นเรื้อรังมานานเมื่อได้บูชาเครื่องรางจากศาลเจ้าไปอาการกลับดีขึ้นเรื่อย ๆ ชาวญี่ปุ่นจึงนิยมบูชาไปเป็นของเยี่ยมไข้เพื่อให้คนป่วยอาการดีขึ้น หายป่วยในเร็ววัน
การบูชาเครื่องรางมาจากญี่ปุ่นนั้นเพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์แนะนำให้พกเครื่องรางนั้นติดตัวตลอดเวลา หรือใส่ไว้ในกระเป๋าเงินได้ยิ่งดี ซึ่งเครื่องรางจะส่งผลได้ดีที่สุด นอกจากนี้แล้วเครื่องรางญี่ปุ่นมีวันหมดอายุด้วยนะ และเมื่อเครื่องรางหมดอายุเราจะต้องทำอย่างไรมาดูกันเลย
เครื่องรางญี่ปุ่นหมดอายุจริงหรือไม่
ตามธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นแล้วนิยมที่จะเปลี่ยนเครื่องรางทุกวันปีใหม่ โดยจะนำเอาเครื่องรางที่ได้บูชามาจากวัดหรือศาลเจ้ากลับไปคืน นอกจากนั้นยังเป็นการแสดงความเคารพและขอบคุณ จากนั้นจะบูชาชิ้นใหม่กลับมาแทน สำหรับเครื่องรางชิ้นเก่าทางวัด ศาลเจ้าจะรวบรวมและนำไปทำพิธีทำลายอีกที
ดังนั้น เครื่องรางญี่ปุ่นที่บูชามาครบปีแล้วไม่จำเป็นต้องนำไปคืน เป็นเพียงธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันเท่านั้นไม่ได้มีข้อกำหนดว่าจะต้องคืน สำหรับการนำไปคืนก็เพื่อที่ให้ทางวัด หรือศาลเจ้าได้ทำพิธีทำลายอย่างเหมาะสมนั่นเอง
ซึ่งการนำไปคืนก็ต้องแล้วแต่ความสะดวก และความสบายใจของแต่ละคน บางท่านอาจจะกังวลใจหากไม่ได้ส่งคืน แต่ถ้าอยู่กันคนละที่อย่างสายมูไทยเราจะทำอย่างไร ยิ่งช่วงนี้โควิด-19 ระบาดห้ามเดินทางจะทำอย่างไรกับเครื่องรางที่ครบหนึ่งปีแล้ว??
เครื่องรางหมดอายุทำอย่างไรดี
- คืนเครื่องรางด้วยตัวเอง : หากสามารถที่จะนำเครื่องรางไปคืนได้ด้วยตัวเอง ให้สังเกตดูว่าเครื่องรางดังกล่าวมาจากวัด(寺 / 寺院) หรือศาลเจ้า(大社 / 神宮) จากนั้นให้นำไปคืนยังวัดหรือศาลเจ้านั้น โดยนำไปคืนยังจุดที่ทางวัดกำหนดไว้ให้
- ไปคืนด้วยตัวเองไม่ได้ : อาจะต้องเก็บเอาไว้ในที่ที่เหมาะสม หรืออาจจะฝากคนที่เดินทางไปสถานที่นั้นให้ช่วยคืนให้ หรืออาจจะทำการส่งเครื่องรางคืนทางไปรษณีย์ก็ได้เช่นกันวิธีนี้ให้สอบถามทางวัดหรือศาลเจ้าก่อนว่ารับคืนด้วยวิธีนี้หรือไม่
- ทำลายทิ้งด้วยตัวเอง : วิธีนี้เราสามารถทำได้เองแต่ต้องทำให้ถูกวิธีซึ่งเริ่มจากนับเครื่องรางไปวางไว้บนกระดาษสีขาวที่ใช้สำหรับเขียนตัวอักษรญี่ปุ่น โรยเกลือเล็กน้อยจากซ้ายไปขวากัลบมาที่ซ้าย จากนั้นห่อให้มิดชิดแล้วนำไปเผา แต่หลัก ๆ เราต้องแสดงความเคารพแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในขณะที่เผาจนกว่าจะเสร็จเรียบร้อย หรือจะใช้วิธีการนำไปทิ้งน้ำก็ได้เช่นกัน
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีเทพเจ้าสถิตย์อยู่ เพื่อให้ผู้ที่เคารพศรัทธาได้เข้ามากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยส่วนใหญ่ที่ศาลเจ้าจะมีการสวดมนต์เป็นประจำเพื่อเป็นการสรรเสริญเทพเจ้า
สิ่งของที่ถูกสร้างขึ้นมาซึ่งผ่านพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์เชื่อกันว่าเมื่อผ่านพิธีกรรมแล้วจะเป็นเครื่องรางที่ป้องกันอันตรายยิงฟันไม่เข้า หรือสามารถที่จะขอพรได้ตามที่ต้องการ เช่น ยันต์ ตะกรุด เป็นต้น
ขอบคุณรูปบางส่วนจาก sanook
สรุป เครื่องรางญี่ปุ่น
เครื่องรางหมดอายุนั้นไม่เป็นจริงเสียทีเดียวแต่เป็นเพียงธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นนิยมที่จะเปลี่ยนเครื่องรางทุกวันปีใหม่ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ และความเคารพต่อเทพเจ้าที่ประทานพร ให้มีสิ่งดี ๆ เข้ามาให้สมหวังตามที่ขอพร
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าพลังของเครื่องรางจะลดน้อยลงเมื่อพรที่ขอสมปรารถนา จึงต้องทำการเปลี่ยนเครื่องรางทุกปี ถ้าหากสายมูท่านใดต้องการที่จะปฏิบัติตามธรรมเนียมเพื่อความสบายใจก็สามารถทำได้ตามข้างต้นที่แอดได้นำวิธีการมาให้แล้ว
บทความที่น่าสนใจ